วันพุธที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑

"ครูดีในดวงใจ " นายบุญเสริม เติมกล้า




ตอนที่ 1 ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ นายบุญเสริม เติมกล้า

วันเดือนปีเกิด วันที่ 16 กันยายน 2501

ที่อยู่ปัจจุบัน 66 หมู่ที่ 16 บ้านจะแกโกน ตำบลสลักได อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์

วุฒิทางการศึกษา ครุศาสตรบัณฑิต วิชาเอกคณิตศาสตร์ วิชาเทคโนโลยีทางการศึกษา

หน้าที่ราชการ ตำแหน่งครูวิทยฐานะ ชำนาญการพิเศษ สาขาภาษาไทย โรงเรียนบ้านราม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุรินทร์ เขต 1

ตอนที่ 2 การศึกษาดูงาน 1. ประเทศกัมพูชา

2. ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

3. ประเทศเวียดนาม

4. ประเทศมาเลเซีย

5. ประเทศสิงคโปร์

เครื่องราชอิสริยาภรณ์สูงสุดที่ได้รับ ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก

รางวัลที่ได้รับ 1. บุคลากรต้นแบบการปฏิรูปกระบวนการการเรียนรู้ สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ

2. ครูต้นแบบปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ระดับจังหวัด

3. รองชนะเลิศอันดับ 1 การเข่งขันกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพการเรียนรู้ระดับเขตพื้นที่การศึกษา

4. เหรียญทองแดงการแข่งขันกิจกรรมการส่งเสริมศักยภาพการเรียนรู้ระดับจังหวัด

5. รางวัลระดับดี การประกวดผลงานทางวิชาการ การออกแบบการจัดการการเรียนรู้บูรณาการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุรินทร์เขต 1

6. เป็นคนดีต้นแบบจังหวัดสุรินทร์

7. ผุ้มีผลงานดีเด่นประจำปี 2551 สาขาปฏิบัติการสอน (ชำนาญการสอนพิเศษภาษไทย)

ผลงานดีเด่น 1. การพัฒนาแบบฝึกเสริมการอ่านในใจ คูปองหัวใจนักรักการอ่านที่ส่งผลต่อนิสัยรักการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนภาษาไทยชั้นประถมปีที่ 1

2. การพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกเสริมการเขียนสะกดคำภาษาไทย ที่ส่งผลต่อการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยและคุณค่าทางภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

3. การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะกิจกรรมขั้นตอนที่ 5 การอ่านจับใจความประกอบการเรียนการสอนภาษาไทยแบบมุ่งประสบการณ์ภาษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษา

--------------------------------------------

ขอเชิญส่งประวัติและผลงานของท่านหรือคุณครูที่ท่านรักและชื่นชอบมาที่ mail issarapon_229@hotamail.com เพื่อจะได้ลงในเว็บไซต์และวารสาร "เสร็นสาร" เพื่อประกาศและยกย่อง"ครูดีในดวงใจ"


“ ครูดีในดวงใจ ” บุญเลี้ยง ฉิมมาลี

แบบประวัติและผลงาน “ ครูดีในดวงใจ ”
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุรินทร์ เขต 1
ตอนที่ 1 ข้อมูลส่วนตัว
1. ชื่อ นางบุญเลี้ยง ฉิมมาลี
เกิดวันที่ 18 กันยายน 2503 ที่บ้านเลขที่1 หมู่3 ตำบลบัวโคก อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์

การศึกษา
1. ประกาศนียบัตรการศึกษา วิทยาลัยครูสุรินทร์
2. ประกาศนียบัตรการศึกษาชั้นสูง วิทยาลัยครูสุรินทร์ วิชาเอกสังคมศึกษา
3. ปริญญาบัตรครุศาสตร์บัณฑิต วิทยาลัยครูเชียงใหม่ วิชาเอกสังคมศึกษา
4. ปริญญาบัตรมหาบัญฑิตศิลปศาสตรมหาบัญฑิต สาขาการวิจัยและพัฒนาท้องถิ่น
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
5. ปัจจุบัน ศึกษาระดับปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขายุทธศาสตร์การพัฒนาภูมิภาค
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์

ประวัติการรับราชการ
1. ครู 1 ระดับ 1 โรงเรียนบ้านหนองแสง สำนักงานการประถมศึกษา
จังหวัดสุรินทร์
2. อาจารย์ 1 ระดับ 3 โรงเรียนบ้านหนองแสง สำนักงานการประถมศึกษา
จังหวัดสุรินทร์
3. อาจารย์ 2 ระดับ 5 โรงเรียนชุมชนบ้านท่าพระ สำนักงานการประถมศึกษา
จังหวัดขอนแก่น
4. อาจารย์ 2 ระดับ 6 โรงเรียนชุมชนบ้านท่าพระ สำนักงานการประถมศึกษา
จังหวัดขอนแก่น
5. อาจารย์ 2 ระดับ 7 โรงเรียนชุมชนบ้านท่าพระ สำนักงานการประถมศึกษา
จังหวัดขอนแก่น
6. ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านระแงง (ศรีขรภูมิพิสัย) สำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษาสุรินทร์เขต 1

ผลงานดีเด่น
1. เกียรติบัตรบุคลากรต้นแบบการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ สำนักงานคณะกรรมการ
การศึกษาพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ปี 2546
2. ได้รับรางวัลครูดีเด่น สาขาวิชาสังคมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุรินทร์ เขต 1
เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2547
3. ได้รับรางวัลดีเด่น ประกวดสื่อ นวัตกรรมการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้
สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2547
4. ได้รับรางวัลแม่ตัวอย่าง เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2545
5. ครูแกนนำสาขาสังคมศึกษา ปี 2547
6. ได้รับโล่และเกียรติบัตรชอล์กทองคำ ปี 2548
7. ได้รับเกียรติบัตรผลงาน ระดับดีเยี่ยม ปี 2551 สมาคมศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์

[ดูผลงาน]



--------------------------------------------
ขอเชิญส่งประวัติและผลงานของท่านหรือคุณครูที่ท่านรักและชื่นชอบมาที่ mail issarapon_229@hotamail.com เพื่อจะได้ลงในเว็บไซต์และวารสาร "เสร็นสาร" เพื่อประกาศและยกย่อง"ครูดีในดวงใจ"


"ครูดีในดวงใจ" ณิชชาภัทร หม้อทอง


แบบประวัติและผลงาน “ ครูดีในดวงใจ ”
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุรินทร์ เขต 1
ตอนที่ 1 ข้อมูลส่วนตัว
1. ชื่อ นางณิชชาภัทร หม้อทอง
2. เกิด วันที่ 4 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2505 อายุ 46 ปี
3. วุฒิการศึกษาสูงสุด ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการวิจัยและพัฒนาท้องถิ่น
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
4. ตำแหน่งปัจจุบัน ครู วิทยฐานะชำนาญการ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม ช่วงชั้นที่ 3
5. สถานศึกษาที่ทำงานปัจจุบัน โรงเรียนบ้านปะนอยไถง ตำบลหนองเหล็ก
อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ รหัสไปรษณีย์ 32110 โทร.บ้าน 044-728-304
(โรงเรียน) 044-503-121 มือถือ 089-579-8723 , 080-153-6274
6. ที่อยู่ที่ติดต่อได้สะดวก บ้านเลขที่ 30 หมู่ที่ 3 บ้านลำหอก ตำบลหนองเหล็ก
อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ รหัสไปรษณีย์ 32110 โทร.บ้าน 044-728-304
มือถือ 089-579-8723, 080-153-6274
ตอนที่ 2 เหตุผลที่เสนอให้ได้รับการคัดเลือกในโครงการ “ ครูดีในดวงใจ ”
1. เป็นที่ยอมรับและศรัทธาของนักเรียนในโรงเรียนบ้านปะนอยไถง ที่กำลังเรียนอยู่และศิษย์
เก่าที่จบไปแล้ว จากหลักฐานนักเรียนได้เขียนความในใจจากการสำรวจความพึงพอใจครูและบุคลากรในสถานศึกษาโดยนักเรียนช่วงชั้นที่ 2-3 วันที่ 12-14 พฤษภาคม พ.ศ. 2551
2. เป็นที่ยอมรับและศรัทธาของเพื่อนครูในโรงเรียนบ้านปะนอยไถง ในเรื่องความเสียสละ
แรงกาย ทรัพย์ สติปัญญา เวลา การให้ความรู้เกี่ยวกับงานวิจัยในชั้นเรียน เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องตรงเวลา การปฏิบัติต่อนักเรียนและเพื่อนร่วมงาน และผู้บริหารด้วยกิริยาที่อ่อนน้อมถ่อมตน
3. เป็นที่ยอมรับและศรัทธาของสังคม ในเรื่อง การเลี้ยงบุตรธิดาให้มีร่างกายแข็งแรง
มีการเรียนดี มีมารยาทดี เป็นนักเรียนตัวอย่างของสถาบันการศึกษาตั้งแต่ชั้น
ประถมศึกษาจนถึงระดับอุดมศึกษา จนได้เป็นแม่ตัวอย่างของสาธารณสุขอำเภอ
และของ สถาบันการศึกษา เรื่องการเสียสละเพื่อส่วนรวม อาทิ บริจาคที่ดินสร้างวัด
สร้างศาลากลางหมู่บ้าน การสร้างถนน บริจาคอุปกรณ์และของใช้ในวัด อุปกรณ์
การศึกษาแก่โรงเรียน ระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษา(จัดหาผ้าป่าจากศิษย์เก่าที่กทม.
ผ้าป่าข้าวเปลือก) บริจาคทรัพย์สร้างโบสถ์ สร้างเมรุ และอาหารเครื่องนุ่งห่มแก่
ชาวบ้านผู้ด้อยกว่า
4. เป็นแบบอย่างของผู้มีจิตวิญญาณแห่งความเป็นครู ได้ทุ่มเทเสียสละเพื่อช่วยเหลือดูแล
นักเรียนอย่างต่อเนื่อง อาทิ เด็กหญิงอัจฉรา และเด็กชายสมนึก หมายชอบ สองพี่
น้องถูกแม่ทอดทิ้ง ได้นำมาดูแลชุบเลี้ยงในครอบครัว ให้การศึกษาจนจบชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 3 ปัจจุบันได้ทำงานในบริษัทมีรายได้เลี้ยงน้อง และศึกษาต่อใน
ระบบการศึกษานอกโรงเรียน
5. เป็นผู้มีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดประโยชน์ต่อราชการโดยรวมและร่วม
กิจกรรมอื่นอันส่งผลและก่อให้เกิดประโยชน์ต่อนักเรียนได้แก่ เข้าอบรมในโครงการ
“ใฝ่รู้ใฝ่ดี มีความสามารถ โดยยึดหลักอริยมรรคมีองค์ 8 และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” จากสวนพนาวัฒน์ จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมร่วมสร้างหลักสูตรที่โรงแรมโฆษิตฮิล จังหวัดเพชรบูรณ์ แล้วนำมาบูรณาการกับหลักสูตรสถานศึกษา จนทำให้โรงเรียนได้เป็นโรงเรียนคุณธรรมชั้นนำ นักเรียนเรียนรู้อย่างมีความสุขมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีขึ้น
นักเรียนได้รับรางวับโครงงานคุณธรรมชั้นนำ โรงเรียนได้ผ่านการประเมินเป็นโรงเรียนต้นแบบการวัดและประเมินผล เป็นครูต้นแบบกลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เป็นต้น
ตอนที่ 3 ผลงานที่สำคัญ
ผลงานที่สำคัญที่เป็นนวัตกรรมในการเรียนการสอน วิทยานิพนธ์ บทความ ดังนี้
1. หนังสือการ์ตูนประกอบการเรียนเรื่อง “การเมืองการปกครอง” กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม มี 8 เรื่อง ได้แก่ ตอนที่ 1 เรื่องประชาธิปไตยเป็นอย่างไร ตอนที่ 2 ลักษณะของผู้นำและผู้ตาม ตอนที่ 3 การปกครองชุมชนและท้องถิ่น ตอนที่ 4 การปกครองส่วนกลาง ตอนที่ 5 การปกครองส่วนภูมิภาค ตอนที่ 6 การปกครองส่วนท้องถิ่น ตอนที่ 7 การปกครองระดับท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ตอนที่ 8 การปกครองประเทศ เป็นหนังสือที่แต่งเองโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อจูงใจให้นักเรียน ชั้นม. 1 เรียนเรื่องการเมือง การปกครอง กลุ่มสาระสังคมฯ อย่างมีความสุข เกิด ความสนุกสนาน เหมาะกับวัยและมีผลการเรียนดีขึ้น เป็นนวัตกรรมเสนอผลงาน วิชาการเพื่อให้มีวิทยฐานะให้สูงขึ้น (ครูชำนาญการพิเศษ) ปีการศึกษา 2549-2550
2. หนังสืออ่านเพิ่มเติมเพื่อเสริมความรู้เรื่อง “ช้าง” ใช้อ่านเสริมความรู้ กลุ่มสาระ
สังคมศึกษา ภาษาไทย วิทยาศาสตร์และอื่นๆ สามารถให้ความรู้ได้ทุกระดับตั้งแต่
ชั้นประถมศึกษาถึงระดับอุดมศึกษา ปี 2549
2. วิทยานิพนธ์ เรื่อง “ การนับถือผีของกลุ่มชาติพันธุ์กูยในประเทศไทยและส่วยใน
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว” เป็นวิทยานิพนธ์ในระดับปริญญาโท
สามารถนำมาประกอบการเรียนในกลุ่มสาระสังคมศึกษาเกี่ยวกับความเชื่อชาติพันธุ์
ประเทศเพื่อนบ้านและอื่นๆ ปี 2548 เป็นต้น
4. บทความ ได้แก่ บทความเรื่อง “ ภาษาผีปะกำ” “ครอบครัวไตลื้อ” เป็นบทความที่
ได้จากการศึกษาระดับปริญญาเอก สามารถใช้ประกอบการเรียนกลุ่มสาระสังคม
ศึกษาภาษาไทย กับผู้สนใจทุกระดับ ปี 2550
5. หนังสือเรื่องเล่าเร้าพลัง “เกริมผู้กล้าหาญ” เขียนจากแรงจูงใจที่เป็นโรงเรียน
คุณธรรมชั้นนำสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมเด็กชายเกริมหรืออาจอน จากเด็กเกเรเป็นผู้
กล้าหาญช่วยลูกชายนายกอบต.ตำบลราม อ.เมือง จ.สุรินทร์คนจมน้ำ กำลังจะ
เสียชีวิตรอดตายอย่างหวุดหวิดกลายเป็นวีรบุรุษของโรงเรียนบ้านปะนอยไถง


ขอรับรองว่าข้อความข้างต้นนี้เป็นความจริง

ณิชชาภัทร หม้อทอง
( นางณิชชาภัทร หม้อทอง )
ครู วิทยฐานะชำนาญการ
โรงเรียนบ้านปะนอยไถง


ขอรับรองว่าข้อความข้างต้นนี้เป็นความจริง

ครองรัฐ ชมบุญ
( นายครองรัฐ ชมบุญ )
ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านปะนอยไถง
-------------------------------------
ขอเชิญส่งประวัติและผลงานของท่านหรือคุณครูที่ท่านรักและชื่นชอบมาที่ mail issarapon_229@hotamail.com เพื่อจะได้ลงในเว็บไซต์และวารสาร "เสร็นสาร" เพื่อประกาศและยกย่อง"ครูดีในดวงใจ"

วันจันทร์ที่ ๑๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑

"ครูดีในดวงใจ" นางอภินันท์ เอื้อเมธิยางกูล


ชื่อ นางอภินันท์ เอื้อเมธิยางกูล

การศึกษา

๒๕๑๐-๒๕๑๑ ประกาศนียบัตรการศึกษา วิทยาลัยครูนครราชสีมา

๒๕๑๒- ๒๕๑๓ ประกาศนียบัตรการศึกษาชั้นสูง วิทยาลัยครู

นครราชสีมา วิชาเอกภาษาไทย

๒๕๒๗ ปริญญาบัตร ศึกษาศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัย

ธรรมาธิราช วิชาเอกภาษาไทย

ประวัติการรับราชการ

กรกฎาคม ๒๕๑๘ ครูตรี โรงเรียนบ้านกุดหวาย อำเภอศีขรภูมิ

จังหวัดสุรินทร์

๓๐ กันยายน ๒๕๑๘ ครู โรงเรียนบ้านตะคร้อ อำเภอศีขรภูมิ

จังหวัดสุรินทร์

มกราคม ๒๕๒๘ อาจารย์ โรงเรียนบ้านกระโดนค้อ (กระโดนค้อ-

ผดุงวิทยา) อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์

มิถุนายน ๒๕๔๖ อาจารย์ โรงเรียนบ้านกระโดนค้อ(กระโดนค้อ-

ผดุงวิทยา) อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์

๒๔ ธันวาคม ๒๕๔๗ ครู ชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านกระโดนค้อ

(กระโดนค้อผดุงวิทยา) อำเภอศีขรภูมิ จังหวัด

สุรินทร์

ผลงานดีเด่น

. ได้รับเกียรติบัตรและโล่ ครูภาษาไทยดีเด่น ของคุรุสภาจังหวัดสุรินทร์

ประจำปี ๒๕๔๕

.ได้รับเข็มเชิดชูเกียรติพระนามาย่อของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ประจำปี

๒๕๔๕

. ได้รับเกียรติบัตรและโล่ พัฒนาทักษะการสอนดีเด่น ของชมรมอนุรักษ์

พิทักษ์สิ่งแวดล้อมไทย ประจำปี ๒๕๔๖

๔. ได้รับเกียรติบัตรและโล่ ผู้ทำคุณประโยชน์ด้านการศึกษา สาขาอนุรักษ์

วัฒนธรรมและมรดกไทยด้านภาษา ของหนังสือพิมพ์ข่าวผู้นำ ประจำปี

๒๕๔๖

. ได้รับเกียรติบัตรและโล่ TOp Teacher Awards ๒๐๐๓ เป็นผู้มีผลงาน

ดีเด่นด้าน ครูแม่แบบอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมไทย ของนิตยสารวิชาชีพ

สู่ความสำเร็จ ประจำปี ๒๕๔๖

. ได้รับเกียรติบัตรและโล่ ผู้อนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมไทย จากหนังสือพิมพ์

สื่อสารธุรกิจ ประจำปี ๒๕๔๖

. ได้รับเกียรติบัตรและโล่ ครูของแผ่นดิน จากนิตยสารสารคดีคนสร้าง

ชาติ ประจำปี ๒๕๔๗

. ได้รับเกียรติบัตร ชนะเลิศการประกวดนวัตกรรมสื่อการเรียนการสอน

ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๔๓

. ได้รับเกียรติบัตร บุคลากรต้นแบบปฏิรูปกระบวนการจัดการเรียนรู้

กลุ่มสาระภาษาไทย ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ

ประจำปี ๒๕๔๔

๑๐. ได้รับเกียรติบัตร ครูต้นแบบปฏิรูปกระบวนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระ

การเรียนรู้ภาษาไทย ของสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาจังหวัด

สุรินทร์ ปี ๒๕๔๔

--------------------------------------------------------

ขอเชิญส่งประวัติและผลงานของท่านหรือคุณครูที่ท่านรักและชื่นชอบมาที่ mail issarapon_229@hotamail.com เพื่อจะได้ลงในเว็บไซต์และวารสาร "เสร็นสาร" เพื่อประกาศและยกย่อง"ครูดีในดวงใจ"


"ครูดีในดวงใจ " นางจำเริญสุข ขาวงาม


ประวัติย่อ

ชื่อ นางจำเริญสุข ขาวงาม

วัน เดือน ปี เกิด ๓๑ ตุลาคม ๒๕๐๔

ที่อยู่ปัจจุบัน ๙๑ หมู่ที่ ๕ บ้านกรวด ตำบลหนองขวาว อำเภอศีขรภูมิ

จังหวัดสุรินทร์ โทร. ๐๘๗-๘๐๒๓๒๔๘

ประวัติการศึกษา

พ.ศ. ๒๕๑๔ ประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนวัดโพธิ์สัตว์ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์

พ.ศ. ๒๕๑๗ ประถมศึกษาปีที่ ๗ โรงเรียนบ้านระแงง อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์

พ.ศ. ๒๕๒๐ มัธยมศึกษาปีที่ โรงเรียนศีขรภูมิพิสัย อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์

พ.ศ. ๒๕๒๒ ประกาศนียบัตรวิชาชีพครู ( ป.กศ. ) วิทยาลัยครูสุรินทร์

อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์

พ.ศ. ๒๕๓๘ ปริญญาตรีครุศาสตร์บัณฑิต ( คบ.) โปรแกรมวิชานาฏศิลป์

สถาบันราชภัฏสุรินทร์

ประวัติการรับราชการ

พ.ศ. ๒๕๔๓ - ปัจจุบัน ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านหัวแรตนาโพธิ์ ตำบลช่างปี่

อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์

ปี ๒๕๓๔ อาจารย์ ๒ โรงเรียนบ้านโคกสมอง อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์

ปี ๒๕๓๑ อาจารย์ ๒ โรงเรียนบ้านบัวขุนจง อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์

ปี ๒๕๓๐ อาจารย์ ๑ โรงเรียนบ้านกรวดนาฮัง อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์

ปี ๒๕๒๗ ครู โรงเรียนบ้านหนองผือโนนแคน อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์

ปี ๒๕๒๔ ครู โรงเรียนบ้านตะกุย ตำบลตรมไพร อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์

ผลงานดีเด่น

ปี ๒๕๔๓- ๒๕๔๔ ครูแกนนำปฎิรูปกระบวนการเรียนรู้

ปี๒๕๔๕ ครูภาษาไทยดีเด่นของอำเภอศีขรภูมิ

- ครู Teacher Awards ของอำเภอศีขรภูมิ

ปี ๒๕๔๖ ครูต้นแบบ ของอำเภอศีขรภูมิ

ปี ๒๕๔๗ ครูภาษาไทยดีเด่นของอำเภอศีขรภูมิ

....................................................................................

ขอเชิญส่งประวัติและผลงานของท่านหรือคุณครูที่ท่านรักและชื่นชอบมาที่ mail issarapon_229@hotamail.com เพื่อจะได้ลงในเว็บไซต์และวารสาร "เสร็นสาร" เพื่อประกาศและยกย่อง"ครูดีในดวงใจ"


วันพุธที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑

ครูดีในดวงใจ " นายวัลลภ ฉลาดเฉลียว "

ประวัติของ นายวัลลภ ฉลาดเฉลียว
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ตำแหน่งครู วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
...........................................................
1. ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ นายวัลลภ ฉลาดเฉลียว อายุ 58 ปี อายุราชการ 28 ปี
คุณวุฒิสูงสุด ปริญญาตรี วิชาเอกเกษตรศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยสถาบันราชภัฏสุรินทร์
ตำแหน่งครูชำนาญการพิเศษ เลขที่ตำแหน่ง 114151 โรงเรียนเทนมีย์มิตรประชา ตำบลเทนมีย์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ 32000
เขตพื้นที่การศึกษาสุรินทร์เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
รับเงินเดือนในอันดับ คศ.3 ขั้น 32,790 บาท
2. วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ (สาขาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม)
þ ตำแหน่งครู สาขาวิชาชีววิทยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
3. การรับราชการ
3.1 เริ่มรับราชการในตำแหน่งครู 2 เมื่อวันที่ 23 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2523
3.2 เคยดำรงตำแหน่ง/วิทยฐานะ ที่สำคัญดังนี้

วัน/เดือน/ปี ตำแหน่ง/วิทยฐานะ รับเงินเดือน ระดับ/อันดับ ขั้น(บาท)
20 พ.ศ. 2523 ครู 2 ร.ร. อนุบาลสุรินทร์ 2 1,905
25 มี.ค. 2526 อาจารย์ 1 ร.ร. อนุบาลสุรินทร์ 3 2,765
1 ต.ค. 2530 อาจารย์ 1 ร.ร. อนุบาลสุรินทร์ 4 3,955
1 ต.ค. 2533 อาจารย์ 2 ร.ร. อนุบาลสุรินทร์ 5 3,955
1 ต.ค. 2537 อาจารย์ 2 ร.ร.เทนมีย์มิตรประชา 6 9,740
1 ต.ค. 2540 อาจารย์ 2 ร.ร.เทนมีย์มิตรประชา 7 13,680
18 ก.พ. 2548 ค.ศ. 3 ร.ร.เทนมีย์มิตรประชา ค.ศ. 3 28,650
ปัจจุบัน ค.ศ. 3 ร.ร.เทนมีย์มิตรประชา ค.ศ. 3 32,790
-------------------------
ขอเชิญส่งประวัติและผลงานของท่านหรือคุณครูที่ท่านรักและชื่นชอบมาที่ mail issarapon_229@hotamail.com เพื่อจะได้ลงในเว็บไซต์และวารสาร "เสร็นสาร" เพื่อประกาศและยกย่อง"ครูดีในดวงใจ"

วันพฤหัสบดีที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑

วันศุกร์ที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑

"ครูดีในดวงใจ" นายองอาจ สุจินพรัหม

นายองอาจ สุจินพรัหม
: เกิด 29 มกราคม 2500
อายุราชการ 29 ปี
-เครื่องราชอิสริยาภรณ์ สูงสุด ท.ช.
ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทนมีย์มิตรประชา อำเภอเมืองสุรินทร์

สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุรินทร์ เขต 1 โทร 084 0119151 email :
mango_th@hotmail.com

-ประวัติการศึกษา กศ.บ. (คณิตศาสตร์) ปี 2522 มหาวิทยาลัยบูรพา
พบ.ม. (สถิติประยุกต์) ปี 2527 สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ น.บ. ปี 2546
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช
ป.บัณฑิตบริหารการศึกษา ปี 2550 มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
เนติบัณฑิตไทย (น.บ.ท.) สมัยที่ 60 ปี 2551 สำนักฝึกอบรมกฎหมาย
แห่งเนติบัณฑิตสภา
ประวัติการทำงาน
พ.ศ. 2522 อาจารย์ 1 สอนวิชาคณิตศาสตร์ โรงเรียนสุรวิทยาคาร จังหวัดสุรินทร์
พ.ศ. 2535 ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิชาการ โรงเรียนสุรวิทยาคาร จังหวัดสุรินทร์
พ.ศ. 2539 ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายบริการ ฝ่ายวิชาการ โรงเรียนสิรินธร จังหวัดสุรินทร์
พ.ศ. 2542 ผู้อำนวยการโรงเรียนตูมใหญ่วิทยา จังหวัดบุรีรัมย์
พ.ศ. 2544 ผู้อำนวยการโรงเรียนเทนมีย์มิตรประชา จังหวัดสุรินทร์ ถึงปัจจุบัน

อุดมการณ์ในการทำงาน มีความรู้ ต้องคู่คุณธรรรม

ผลงานที่ได้รับรางวัลดีเด่น
1. สมาชิกคุรุสภาผู้มีจรรยาบรรณ มารยาท และวินัยดีเด่น คุรุสภาอำเภอเมืองสุรินทร์ ประจำปี 2546
2. โรงเรียนเทนมีย์มิตรประชา ได้รับเกียรติบัตรสถานศึกษาที่จัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมดีเด่น ปี 2546
3. ผู้บริหารผู้มีมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณดีเด่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุรินทร์ เขต 1 ประจำปี 2547
4. ผู้บริหารโรงเรียนที่มีผลงานดีเด่น สมาคมผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานช่วงชั้นที่ 4 จังหวัดสุรินทร์ ประจำปี 2547
5. ผู้บริหารโรงเรียนที่มีผลงานดีเด่น ระดับมัธยมศึกษา สมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย ประจำปี 2547
6. โรงเรียนเทนมีย์มิตรประชา ได้รับรอง จาก ส.ม.ศ. โดยผ่านการประเมินภายนอก รอบ 2 ปี 2550
7. โรงเรียนเทนมีย์มิตรประชาได้รับคัดเลือกเป็น โรงเรียนวิถีพุทธกัลยาณมิตร ปี 2549 จาก สพฐ.
8. ได้รับเกียรติบัตร รางวัลเกียรติยศ “คนดีศรีแผ่นดิน” ผู้บริหารสถานศึกษาที่มีคุณธรรมดีเด่น ปี 2549
9. โรงเรียนเทนมีย์มิตรประชา ได้รับคัดเลือกเป็น โรงเรียนคุณธรรมชั้นนำ ปี 2550 จาก สพฐ.
10. โรงเรียนเทนมีย์มิตรประชา ได้รับคัดเลือกเป็นโรงเรียนต้นแบบการจัดการศึกษาทางเลือกนอกระบบ ปี 2551 จาก สพท. สุรินทร์ เขต 1

ประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน
1. กรรมการและเลขานุการ กลุ่มเครือข่ายสถานศึกษาแบบบูรณาการเมืองสุรินทร์ 4
2. กรรมการประเมินผลงานทางวิชาการและวิทยฐานะครูและบุคลากรทางการศึกษา สพท.สุรินทร์ เขต 1
3. กรรมการสอบสวนวินัยข้าราชการ สพท. สุรินทร์ เขต 1
4. กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ มูลนิธิสุรวิทยาคาร
5. กรรมการสมาคมศิษย์เก่าสุรวิทยาคาร
6. กรรมการสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งจังหวัดสุรินทร์
7. กรรมการและเลขานุการ กลุ่มส่งเสริมประสิทธิภาพ การมัธยมศึกษาจังหวัดสุรินทร์
8. อนุกรรมการช่วยเหลือการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง คณะกรรมการ การเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ปี 2547
9. กรรมการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลเทนมีย์ ปี 2547
10. รองประธานการเลือกตั้ง ส.ส. เขต 2 จ.สุรินทร์ ปี 2548
11. วิทยากรครู ข. การเลือกตั้ง ส.ส. ปี 2550
12. กรรมการเลือกตั้งประจำเทศบาลเมืองสุรินทร์ ปี 2551
13. ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลเทนมีย์ ปี 2551
14. ประธานกรรมการสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเทนมีย์ ปี 2551
ผลงานทางวิชาการ
1. งานวิจัยรูปแบบการพัฒนาจริยธรรมของนักเรียนช่วงชั้นที่ 3-4 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
สุรินทร์ เขต 1 : ศึกษาเฉพาะกรณี โรงเรียนเทนมีย์มิตรประชา อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์
2. รายงานการประเมินโครงการพัฒนาจริยธรรมนักเรียนโรงเรียนเทนมีย์มิตรประชา



--------------------------------
ขอเชิญส่งประวัติและผลงานของท่านหรือคุณครูที่ท่านรักและชื่นชอบมาที่ mail issarapon_229@hotamail.com เพื่อจะได้ลงในเว็บไซต์และวารสาร "เสร็นสาร" เพื่อประกาศและยกย่อง"ครูดีในดวงใจ"

วันจันทร์ที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑

ประวัตินายชำนิ จันทสุข

....ผมเกิดเมื่อวันเสาร์ แรม 14 ค่ำ เดือนสี่ ปีชวด (นับแบบเก่า ตรงวันที่ 26 เดือนมีนาคม 2492) นี้เป็นคำบอกเล่าของแม่ แต่ทะเบียนบ้านผมปรากฏว่า ผมเกิดปี 2491 ทะเบียนโรงเรียนลงไว้ว่า เกิด 6 กันยายน 2491 ถ้าผมจะดูหมอดูผมยึดคำบอกเล่าของแม่
ผมเกิดที่บ้านเสลา ตำบลใจดี อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ครอบครัวผมอพยพมาอยู่เขต
ตำบลสะเดา (ขณะนั้น) อำเภอสังขะ จ.สุรินทร์ ตั้งแต่ประมาณ ปี 2492 เมื่อผมลืมตาเห็นโลก ผมก็อยู่ที่พื้นที่จังหวัดสุรินทร์ แต่พื้นที่นี้แปลกอยู่อย่างเรื่องศาสนาประเพณีวัฒนธรรม การค้าเศรษฐกิจ เขาไปทาง อำเภอขุขันธ์ ส่วนการศึกษาการปกครองเขามาทางอำเภอสังขะ
ผมใส่ใจเรื่องศาสนา เรื่องความเมตตากรุณาตั้งแต่เด็ก ๆ ที่บ้านผมเวลาฆ่าไก่ต้มกินจะกินต้มไก่กันไม่ค่อยลง เพราะจิตซึมซาบความรัก ความเมตตาไก่ กินไม่อร่อย เวลาจะขายวัวขายควายในบ้าน เป็นเรื่องใหญ่มาก แม่ต้องทำน้ำมนต์ (ใส่แป้ง ใส่ขมิ้น) ปะพรมให้วัวควายขอโทษ ขอขมาที่ต้องขายเขาไป เราเลี้ยงมันก็ผูกพันเหมือนลูกหลาน จะขายก็อาลัย รัก...
ผมเป็นครูเมื่อปี 2512 ครูบ้านนอกได้รับการซึมซับอุดมการณ์ครูบ้านนอกมาเต็มร้อย เราเป็นคนบ้านนอกอยู่แล้ว ไม่กลัวความยากลำบากไม่มีที่ไหนจะทุรกันดารอีกแล้ว จึงอาสาไปเป็นครูชายแดน ในที่สุดได้เป็นครูใหญ่ ครูน้อย ภารโรงที่โรงเรียนบ้านหนองโจงโลง แต่หัวใจไม่แกร่งพอ แค่ปีเดียวใจครูบ้านนอกก็พ่ายแพ้ ต้องไปฝึกวิทยายุทธใหม่
9 มกราคม 2529 ผมเป็นผู้ช่วยหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอสำโรงทายแล้ว วันนี้ผมตัดสินใจเดินเข้าวัด ตั้งใจศึกษาและปฏิบัติธรรมกับวัดป่าหนองไผ่ล้อม ทั้งนี้มีแรงบันดาลใจจาก พลตรีจำลอง ศรีเมือง ที่ปฏิบัติธรรมเคร่งครัด และอาสารับใช้บ้านเมืองสมัครับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่นี่นอกจากทำวัตรเย็น นั่งสมาธิ แผ่เมตตาแล้ว ผมเริ่มพึงศีล 5 ให้ตึงขึ้น คือเขาใจใส่ศีล 5 อย่างจริงจัง ผมเลิกหาปลา (ดักมอง ใส่เบ็ด) เลิกกินเหลา เลิกซื้อหวย ใส่เสื้อผ้าสีหม่น ฯลฯ มันเป็นไปเองอัตโนมัติ
ปีรุ่งขึ้นผมมีโอกาสไปสนทนาธรรมกับพระมนาโป (ปัจจุบันท่านมรณภาพแล้ว) ที่ศีรษะอโศก ผมเริ่มชัดเจนขึ้นแล้วเปลี่ยนสายปฏิบัติ มาปฏิบัติสายอโศก (ทั่วไป เรียกว่า สายสันติอโศก) จนปัจจุบัน
การปฏิบัติของพระพุทธเจ้า แท้ที่จริงก็มุ่งอยู่ที่การกินน้อยใช้น้อย คือมักน้อย และช่วยเหลือสังคม
ผมไม่แน่ใจว่า ผมเริ่มเศรษฐกิจพอเพียงตั้งแต่เมื่อใด เท่าที่ทบทวนดู ก็พบว่า แท้จริงพวกเราชาวพุทธ (บ้านนอก) ก็อยู่อย่างพอเพียงมาเนิ่นนานแล้ว แต่เมื่อกระแสทุนนิยมเข้ามา ก็ชักจูงให้เราเป็นนักบริโภคนิยม คือ กินมาก ใช้มาก ฟุ่มเฟือยมาก เห็นแก่ตัวมาก ไม่เอื้ออาทรกัน สังคมก็เดือนร้อนมาก
ชีวิตผมและครอบครัว ก็มีความสุขแบบพอเพียง

4 พฤศจิกายน 2551
-------------------
ขอเชิญส่งประวัติและผลงานของท่านหรือคุณครูที่ท่านรักและชื่นชอบมาที่ mail issarapon_229@hotamail.com เพื่อจะได้ลงในเว็บไซต์และวารสาร "เสร็นสาร" เพื่อประกาศและยกย่อง"ครูดีในดวงใจ"

วันอังคารที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๑

ครูดีในดวงใจ นายชำนิ จันทสุข รองผอ.สพท.สร.1

......ผมเกิดที่อำเภอเมือง ไม่ใช่เมืองสุรินทร์ ไม่ใช่เมืองศรีสะเกษ แต่เป็นเมืองขุขันธ์ครับ คนบ้านผมเรียกขุขันธ์ว่า เมือง (ขุขันธ์) แต่เรียกอำเภอและจังหวัดอื่นโดยออกชื่อเฉย ๆ ไม่ขึ้นต้นโดยคำว่า เมือง ผมมารู้เมื่อโตแล้วว่า ที่เรียกขุขันธ์ขึ้นได้ด้วยคำว่า เมือง ก็เพราะว่า ขุขันธ์ เคยเป็นจังหวัดเก่าของศรีสะเกษ เรียกว่า จังหวัดขุขันธ์ แม้จะย้ายที่ตั้งจังหวัดมาอยู่ที่ศรีสะเกษตั้งแต่ปี 2447 ก็มาเปลี่ยนเป็นจังหวัดศรีสะเกษ เมื่อปี 2451 นี่เอง (ศรีศักร วัลลิโภดม : 2551 : 79)

......ผมเกิดที่บ้านเสลา ตำบลใจดี (ขณะนั้น ปัจจุบันแยกเป็นตำบลโคกเพชร) บ้านเสลาเป็นที่ราบลุ่มห้วยสำราญ มีลำห้วย 2 ลำมาบรรจบกัน มีบ้านเสลาเป็นโนนอยู่ตรงกลาง จึงมีความอุดมสมบูรณ์ด้วยข้าวปลาอาหาร ผมได้ฟังมาว่าฤดูน้ำหลาก ปลาจะเริ่มร้องสะสม เป็นที่อัศจรรย์ ................หาดูหาฟังไม่ได้ในปัจจุบัน
แม่ผมบอกว่า ผมเกิดวันเสาว์ เดือน 4 ปีชวด ข้างแรม และเป็น.......... ผมมาเปิดปฏิทินร้อยปีดู ปรากฏว่าตรงกับวันที่ 6 กันยายน 2491 แต่ทะเบียนบ้านผมลงว่า ผมเกิดปี 2491 เอกสารทางโรงเรียนลงว่า เกิด 6 กันยายน 2491 ผมไม่ขวนขวายจะแก้ไข เพราะไม่คิดว่าจะรับราชการจนถึงวันเกษียณ

......ในวัยเด็กผมเกือบไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะเหตุว่า ครองครัวผมย้ายถิ่นที่อยู่ มาอยู่ที่อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่ประมาณปี 2492 เป็นหมู่บ้านใหม่ หมู่บ้านเล็ก ๆ ขึ้นต่อเขตปกครองบ้านกะปู ต.สำเดา (ขณะนั้น ปัจจุบัน ต.สะเดา ขึ้นกับอำเภอบัวเชด) ชื่อบ้านกันจาญ บ้านผมจึงไม่มีโรงเรียนต้องไปเรียนที่บ้านกะปู ซึ่งห่างออกไป 3 กิโลเมตร ช่วงปี 2499 เป็นป่าเป็นดง ทางถนนไม่มีไม่ง่ายมีเสียงเด็ก ๆ ที่จะเดินทางไปเรียน พบคงมีบุญเก่าช่วยจึงเรียนจบ ป.4 มาได้คนเดียว นอกนั้นก็เลิกไปเรียนหลังจากผมไปเรียนต่อที่อำเภอสังขะ พวกเขาจึงอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้จนทุกวันนี้

......ผมได้รับแรงกระตุ้นจากพี่ชาย ผลักดันพ่อแม่ให้ส่งลูกไปเรียนต่อ พ่อผมไปฝากเป็นศิษย์วัดโพธาราม อ.สังขะ โรงเรียนก็คือโรงเรียนสังขะ แต่เป็นสังขะเดิมที่ยุบรวมกับสังขะวิทยาคม ไม่ใช่สังขะมัธยมในปัจจุบัน (ในปี 2551 อาคารเรียนสมัยนั้นยังอยู่)

......ผมอยู่วัดโพธาราม 2 ปี (2504-2505) พอปีสุดท้ายจะขึ้น ป.7 นายอำเภอสังขะ (คุณพ่ออรุณ คุณแม่บุญเลิศ) ไปขอผมมาเป็นเด็กรับใช้ที่บ้านท่าน ซึ่งผมได้แสดงความสามารถ มีความรับผิดชอบดีมาก (ในขณะนั้นผมรู้สึกว่างานหนัก ขมและขื่นมาก) ด้วยความดีอย่างนี้กระมัง ท่านจึงฝากต่อไปยังผู้มีอุปการคุณคนต่อไป
คนแรกที่ท่านจะฝาก ก็คือ คุณลุงเชาว์ คุณป้านิเทศก์ ศรีสรสิทธิ์ บ้านอยู่ข้างสามเหลี่ยม เยื้อง ๆ หน้าเทศบางเมืองสุรินทร์ ติดกับโรงกลึงสหะยนต์ไทย ลุงเชาว์ทำงานที่เทศบาล ป้าเทศน์ขายของที่ตลาดสด บ้านท่านทำเป็นคล้ายหอพัก มีนักเรียนจากต่างอำเภอส่วนใหญ่ก็จากสังขะ มาอยู่โดยเสียเงินคนละ 200-300 บาทต่อเดือน แต่เฉพาะผมจะได้อยู่ฟรี

......แต่ช่วงเดียวกัน มีนายตำรวจ คือ ร.ต.อ.นิพนธื สันตพงษ์ ย้ายจากอำเภอจอมพระมาเป็นผู้บังคับกอง สภอ.สังขะ คงจะมีบุญเก่าร่วมกัน คุณพ่ออรุณได้เอยปากฝากต่อคุณพ่อนิพนธ์ก็รับ ช่วงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น (มศ.1-3) ที่โรงเรียนสุรวิทยาคาร ผมจำได้อยู่กับครอบครัวคุณพ่อนิพนธ์ คุณแม่เพลิน
จันท์ สันตพงษ์ อยู่ฟรี กินฟรี (แต่รับผิดชอบงานบ้านรับใช้ท่าน ตามความสามารถ) จนจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

-2-

......ผมเรียนที่วิทยาลัยครูอุบลฯ (2510-2511) เมื่อผมอยู่ปีหนึ่ง ท่านผอ.สิงห์ทอง สิงหพรพงศ์ อยู่ปี 3 ช่วง 2 ปี นั้น จึงเรียนทราบเหตุการณ์ของวิทยาลัยมาด้วยกัน เหตุการณ์ณ์หนึ่งที่ดังมาก คือ เหตุการณ์ที่อาคาร 8 (ไพรพยอม)
ช่วยแรกผมอยู่ที่อาคาร 1. (อมรพิมาน) หอพักษี ก็มีสุระ ประยงค์หอม มียรรยง อุทธา ฯลฯ สองคนนี้เสมอต้นเสมอปลายจนบัดนี้

......ผมอยู่ที่หออมรพิมาน 1 ภาคเรียน ได้ย้ายไปบ้านเกษตร ซึ่งเป็นเขตการเกษตรของวิทยาลัยได้ช่วยงานของวิทยาลัย ดูแลการเลี้ยงไก่ การเลี้ยงหนู การปลูกพืชผัก และได้อยู่ฟรี กินฟรีจนจบการศึกษา

......ผมได้รับซึมซับอุดมการณ์ครูบ้านนอกมาเต็มหัวใจ เมื่อจบ ป.ก.ศ.ต้น ก็ออกมาเป็นครู เริ่มต้นที่โรงเรียนบ้านเถกิง อ.สังขะ (ปี 2512) เป็นโรงเรียนใหม่เอี่ยม คือเปิดเริ่มในปี 2512 นั้นเอง เมื่ออยู่ได้หนึ่งปี ทางอำเภอโดยศึกษาบุญศรี บุญสุยา ประกาศหาครูอาสาไปอยู่โรงเรียนของชายแดน(เขมร) ผมจึงได้ย้ายไปที่โรงเรียนบ้านลันแต้ ต.ดม แต่ที่นี่แทนที่ว่ากันดารยากลำบาก กลับสบายกว่าเยอะ เพราะว่า ถนนลูกรังเข้าไปถึง รถบัสวิ่งเข้าเมืองสุรินทร์ไปเช้าเย็นกลับ ผมอยู่ได้สามเดือนก็เกิดเหตุต้องย้าย ด้วยว่ามีครูหญิงท่านหนึ่งบรรจุใหม่ จะไปลงที่โรงเรียนบ้านหนองโจงโลง ทราบว่าที่นั้นยุ่งยากมาก ลำบากกว่าบ้านลันแต้ จึงมีการทาบทามผมให้ไปแทน โดยมีข้อเสนอให้เป็นครูใหญ่ด้วย ผมจึงเริ่มต้นเป็นครูใหญ่ในปี 2513

......โรงเรียนบ้านหนองโจงโลง (ต.สะเดา อ.สังขะ ในขณะนั้น ขณะนี้ ต.กะเพอโร อ.บัวเชด) มีครู 2 คน (ครูใหญ่,ครูน้อย) สภาพอาคารแย่กว่าศาลาวัด อาคารเอียงพื้นเป็นไม้เนื้อแข็งวางเรียงไว้ มีรูโหว่อยู่ทั่วไป เวลาเดินต้องระวัง อยู่ไปได้เกือบปีเกิดมีเหตุมีครูคนหนึ่งเป็นอันต้องหาคดีอาญา จึงเหลือผมเพียงคนเดียว เด็ก 128 คน ชั้น ป.1-4 การสอนคนเดียวไม่ง่าย แต่ด้วยความห้าวหาญ อายุ 20 ปี ผมสอนอยู่คนเดียวได้ 8 เดือน เริ่มมองหาพี่เลี้ยง และแล้วหัวใจครูบ้านก็พ่ายแพ้

......ผมสมัครรับคัดเลือกไปเรียนต่อระดับ ป.กศ.สูง ที่วิทยาลัยครูนครราชสีมา ที่นี่ก็มีเพื่อนรุ่นน้อง เช่น คุณอร่าม บูรณ์เจริญ รอง ผอ. สวค. ผมเรียนอยู่ 1 ปี ก็สอบได้วุฒิ พ.ม. ซึ่งถือว่าสูงกว่า ป.ก.ศ.สูง จึงกลับมาและได้ย้ายมาอยู่โรงเรียนจตุคามวิทยา โรงเรียนของหมู่บ้านตัวเอง โรงเรียนตั้งขึ้นในปี 2511 โดยพี่ชายผมเป็นครูใหญ่คนแรก ซึ่งเวลานี้หมู่บ้านได้ขยายออกจากบ้านกันจาญเดิมออกมาอยู่ที่เนิน น้ำไม่ท่วม แตกออกเป็นหลายหมู่บ้าน ที่เป็นหลัก ๆ ก็คือ บ้านตราด บ้านโคกกรวด บ้านโคกระเภาว์ บ้านกันจาญ (เดิม) ต.พระแก้ว ยังไม่แยกเป็น ต.ตาคง คำว่า จตุคามวิทยา ผมเป็นคนเสนอชื่อเอง ใช้ชื่อกลาง ๆ จะได้ไม่ทะเลาะกัน
ต้นปี 2518 ผมลองไปสอบเรียนต่อระดับปริญญา ทดสอบความสามารถครูบ้านนอก ที่ มศว.ประสานมิตร ปรากฏว่าสอบได้ที่ 1 ในเอกสารประถมศึกษา ก็เริ่มมั่นใจว่าเรียนมหาวิทยาลัยไม่ได้ยาก
เกินกว่าจะไขว่คว้า แต่แทนการตั้งใจเรียนในห้อง อย่างที่คนที่..................... ใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยได้คุ้มค่า ผมกลับทำกิจกรรมหนัก โดยเฉพาะกิจกรรมทางการเมือง เมื่อเกิดเหตุการณ์ 16 ตุลา 2519 ผมก็เกือบเข้าป่า

-3-

......แต่หลังจากตรึกตรองแล้วว่า แนวความรุนแรง แนวสงครามนั้นเราไม่ได้สะสมไว้ในหัวใจ (เราไม่ชอบ) เราชอบแบบอย่างของ มหาตมะคานธี ชอบแนวทางของประเทศสแกนดิเนเวีย (สวีเดน นอร์เว ฟินแลนด์, เราจึงไม่เข้าป่า เมื่อกลับมาจึงอยู่ไม่สุขนัก แต่ก็เหมือนมีบุญเก่าช่วย คุณพ่ออรุณ คุณแม่บุญเลิศ จึงช่วยให้ย้ายมาอยู่อำเภอจอมพระ

......ผมอยู่ในกลุ่มคนที่ไม่เอาดีเรื่องความรัก เรียนปริญญาตรีแล้วก็จีบสาวไม่เป็น ไม่มีแฟน ชีวิตสมรสของผมเป็นไปตามผู้ใหญ่เสนอแนะให้ ซึ่งผมก็เชื่อฟังผู้ใหญ่ ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมือง ทำให้ผมต้องหลบภัย เจียมเนื้อเจียมตัว มีผู้ใหญ่คุ้มครองจะปลอดภัยกว่า ผมจึงย้ายมาอยู่โรงเรียนบ้านปะ อ.จอมพระ
ที่โรงเรียนบ้านปะ ผมมีความสุขมาก มีคุณครูทวีโชค งามชื่น ครูทวีชัย ชาวสวน ครูฉวีวรรณ ประจันทร์ และครูขาว จินดาศรี เป็นครูช่วยสอย เด็ก ๆ แทบจะไม่ขาดเรียนเลย สอนง่าย ชาวบ้านสนับสนุนดีมาก ผมมองเห็นความดีของชาวส่วยบ้านปะ และเริ่มมองความดีของชาวส่วนทั่ว ๆ ไป

......ผมอยู่โรงเรียนบ้านปะ ได้ 1 ปี มีอันต้องย้ายที่ทำงาน โดยหมวดการศึกษาขอให้ไปเป็นวิชาการอำเภอ วิชาการอำเภอก็คือศึกษานิเทศก์นี่แหละ ผมเปิดตำราว่าด้วยการนิเทศก์ ก็พบว่า การนิเทศคือการช่วยเหลือครู (ทางวิชาการ) แต่ภาคปฏิบัติกับภาคทฤษฎีจะขัดแย้งกัน ผมทำหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก ในปีนี้ (2521) หน่วยศึกษานิเทศก์จังหวัดสุรินทร์รับสมัครคัดเลือกเป็นศึกษานิเทศก์ ผมตั้งใจจะเป็นศึกษานิเทศก์ แต่เขากำหนดเงินเดือนระดับ 4 (C 4) ผมไปเรียนต่อ 2 ปี เงินเดือนไม่ขึ้นอยู่ 2 ปี เงินเดือนต่ำกว่า C4 อยู่ 1 ขั้น ก็เลยไม่ได้เป็นศึกษานิเทศก์

......ปี 2522 ผมลองไปสอบเรียนต่อปริญญาโท ทดสอบความรู้ตัวเองว่า จบมหาวิทยาลัยมาด้วยเกรด 2.23 จะสอบได้ไหม ผลปรากฏว่าสอบได้ จึงตัดสินใจเรียนต่อและก็เอาตัวรอดจบออกมาได้
ปี 2525 หลังการเปลี่ยนโครงสร้างเป็น สปช. มีการสอบคัดเลือกเป็นผู้ช่วยหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอ ผมก็ลองสอบก็ได้เป็นผู้ช่วยหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอ เริ่มต้นจากอำเภอจอมพระ สำโรงทาบ เมืองสุรินทร์ ศีขรภูมิ จอมพระ ชุมพลบุรี ผมรู้สึก..........ว่า การสอบเรียนต่อง่ายมาก สอบครั้งเดียวได้ แต่สอบเป็นหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอ ผมสอบไม่ได้ ผมจึงเป็นผู้ช่วยฯ อยู่นานมากถึง 17 ปี ในที่สุดผมก็ได้เป็นหัวน้าการประถมศึกษาอำเภอ ในปี 2542

......ผมเริ่มเป็นหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอที่ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ที่นี้มีความสุขมาก สุขกับธรรมชาติ ป่าเขา ที่ยังอุดมสมบูรณ์ เทียบกับปี 2512 หลายโรงเรียนไปได้ด้วยจักรยานยนต์และเดินเท้า เรื่องรถยนต์โดยสารประจำทางหาไม่ได้ หลายหมู่บ้านประชาชนพูดภาษาไทยกลางไม่ได้
ปี 2543 ผมกลับมาและเริ่มจาก อ.ลำดวน และย้ายไปชุมพลบุรี ที่ชุมพลบุรีปี 2544 ประทับใจมาก ที่ว่าชุมพลบุรีไม่มีโจร ที่นั้นเกิดเหตุ โจรขโมยโทรทัศน์โรงเยนไปถึง 17 โรง ตำรวจยืนยันว่าชุมพลบุรีไม่มีโจร และก็จริง เพราะเมื่อจับโจรได้ เป็นโจรจากอำเภอสตึก จ.บุรีรัมย์

-4-

......ปี 2545 ผลย้ายมา อ.สำโรงทาบ และปี 2546 ผมย้ายมาก อ.จอมพระ และเข้าสู่เขตพื้นที่การศึกษา
เมื่อเข้าสู่เขตพื้นที่การศึกษา หัวหน้าการประถมศึกษา ศึกษาธิการอำเภอ ก็ หาตำแหน่งไม่ได้ หาอนาคตไม่เจอ ผู้อาวุโสหลายคนจึงอำลาชีวิตราชการ ผมก็เกือบไปแต่ทางครอบครัวยับยั้งไว้ จึงอยู่มาจนถึงวันนี้
ทำไมต้องมังสะวิรัติ

......ผมตั้งต้นเจ้าวัดปฏิบัติธรรม เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2529 ที่อำเภอสำโรงทาบ ด้วยแรงสะเทือนจาก พลตรีจำลอง ศรีเมือง นักปฏิบัติธรรมที่สมัครรับเลือกตั้ง เป็นผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ผมจึงถือวันที่สมเด็จย่าเสร็จฯ เยือนราษฎรที่บ้านหนองฮะ อ.สำโรงทาบ และได้รับหนังสือเล่มเล็กเล่มหนึ่งที่ชื่อว่า พระพุทธเจ้าสอนสอนอะไร ผมเริ่มต้นที่วัดป่าหนองไผ่ล้อม อ.สำโรงทาบ ด้วยการทำวัดเย็น นั่งสมาธิทุกวัน และเริ่มต้นรักศีล โดยไม่รู้ตัว..... ผ่านไป 1 ปี ด้วยจริตแท้ของผมคือ ชอบการบำเพ็ญประโยชน์ ชอบกิจกรรมครบวงจร การปฏิบัติธรรมต้องครบพร้อมที่เกี่ยวกับชีวิตเสียงกับสังคม ประกอบกับได้ไปพบ............สนทนาธรรม กับพระสงฆ์ที่พุทธศาสนาศรีษะอโศก ผมจึงเริ่มหันมาทางปฏิบัติตามแนวทางของชาวอโศก

......นั่นคือการประพฤติปฏิบัติแต่งอย่างมีหลักมีเหตุมีผล การกินมังสะวิรัติเป็นการไม่เบียดเบียนสัตว์ เป็นความเมตตากรุณาต่อสัตว์ เป็นการแผ่เมตตาที่แท้จริง เหนือกว่าปากพูด” สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด........... เป็นสุขได้อย่างไร เมื่อมนุษย์ ที่อ้างว่าเป็นสัตว์ประเสริฐ เบียดเบียนเขา ฆ่าเขาทุกวัน ถ้าชาวพุทธรักษาศีลข้อ 1 ได้ชาวพุทธจะเอาเนื้อสัตว์ที่ไหนมากินทำไมต้องเป็นผู้บริหารการศึกษา

......เมื่อผมเป็นครูใหญ่ ครูน้อย และภารโรง โรงเรียนบ้านหนองโจงโลง ในปี 2514 ........................... ก็คือ กำลังใจ ผมคิดว่าถ้าผมเป็นบริหารการศึกษา ผมจะเป็นผู้สนับสนุนส่งเสริม ให้กำลังใจแก่ผู้บริหารโรงเรียนและครู ให้เป็นนักรบทางการศึกษา รบอย่างองอาจ กล้าหาญ แต่เอาเข้าจริงผมก็ทำได้ไม่ดีนัก แต่ยืนยันได้ว่า ผมรักและเห็นใจโรงเรียนขนาดเล็กมากที่สุด เพราะซาบซึ้งมาด้วยตนเอง
ความสำเร็จหรือความล้มเหลว

......ชีวิตจากรากหญ้า ลูกชาวนา จากบ้านนอก เติบโตมาได้ขนาดนี้ ถือว่าเกินคุ้ม อาจได้กำไรเกินควรด้วยซ้ำ บทเรียนชีวิตมีสิ่งที่ควรแก่การปรับปรุง แก้ไขมากมาย ที่แก้ไขได้ก็แก้ไข แต่ถ้าแก้ไขชาตินี้ไม่ได้ หากชาติหน้ามีก็จะพยายาม ความตั้งใจที่จะสร้างประโยชน์สุข แก่งมหาชนทั้งหลาย เป็นสิ่งที่ดีและสมรรถภาพกายใจยังต้องสร้าง ควรเรียนรู้พัฒนาตนเองตามแนวพุทธให้ยิ่งกว่านี้ ชีวิตส่วนปัจเจกบุคคลอาจดูดี มีความสุข แต่หากมองไปยังพี่น้องประชาชน ชาวนาชาวไร่ เพื่อนฝูงสมัยเด็ก ๆ อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ เป็นชาวนาชาวไร่ยากไร้ ฝนแล้งทำนาทำไร่ไม่ได้ ฝนหนักน้ำท่วมข้าวเสียหายหมด ปุ๋ยแคมีขึ้นราคา 3 เท่า ราคาข้าวกำหนเองไม่ได้ ใครจะช่วยชาวนาได้ ควรเก็บไปตอบในชาติข้างหน้า (ถ้ามี)

วันศุกร์ที่ ๒๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๑

ครูดีในดวงใจ ครูสอิ้ง อภิปาลกุล


คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขยาย
ครูสอิ้ง อภิปาลกุล

ครูดีในดวงใจ อ.ฉัตรชัย ชุมนุม

คลิกที่รูปดูภาพขยาย
อ.ฉัตรชัย ชุมนุม


วันศุกร์ที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๑

Bibliography Mr.Chatchai Chumnum

.Dear Sir,(Mr.Issrapong Sangtawan)
Actually,Mr.Vice Director,I do not need to write much about myself.The reason is; when I write in the positive side of my life,I probably hurt people feelings.On the other hand,if I write in my negative side of my life,I will hurt myself!
My dear Vice Director,anyway,if you really need it I 'll try but I will be very careful not to hurt anybody and myself.
Fortunately,I was born in the big family of 7 children.I am the second son.My parents were teachers and my father later on became a school headmaster until he retired.
When I was young,I did not want to be a teacher but my father urged me to sit for the competitive test for studying in the teacher's college.Unfortunately I passed and I had no other choices.After 2 years in Ubon Teachers College,I finished and became a treacher in Surin.
When I chose the school I needed to teach,I chose the one that eligible for having extra money- the school in the remote area of Sangkha District.
I got 750 baht and an extra money of 150 baht per month.It was a big salary for me and I could save some money monthly.
I was a very good teacher because I taught 6 hours per day.I taught only English from Pratom 5-7.No other teachers liked to teach English so I taught English alone in that school for some 4 years.
During those for years,I worked really hard because I prepared the lesson plans everyday and then submitted to the headmaster for his approval.I loved teaching English eventhough I had to teach all day long and year by year.
I applied to sit for the exam to promote my position to secondary certicate teacher and to promote my salary.I passed the exams and got the higher position within 2 years.
I got 950 baht per month after two years of teaching!It was a big salary for the poor teacher like me.
I told my mom(mother) I met a lady in Lamduan , she was a teacher and I fall in love with her- I needed to marry her.My mom asked me one important thing before getting marry.She asked me to be in a monkhood for 4 months.So as soon as I finished from being the monk,I got marry with that lady.We have 3 daughters and all are grown up and they can stand on their own feet.At the moment,I have got 4 grandchildren.
My work life promoted gradually from the bottom to the high top.I am very proud to be on the top before my retirement.I got the trophy from the Ministry of Education for being the outstanding teacher and got the high decoration from the King.
I am very proud to be able to help teachers ,school diectors to teach and manage the school properly.I could help several schools in Surin to have the library buildings and the school buildings.I could help many students to get scholarships from abroad.
I love reading books.I buy new books every month.The place I go very often is the bookstores.
Thanks for those teachers who came to meet me and asked me to be their advisor in preparing their teachnical works for their position promotions.I enjoy working with them because I hope their technical works are the works that they had worked successfully with their students.
Thanks my bosses who supported me to work hard and meet technical needs of the schools.
Thanks for my friends and co-workers in the office,for their kindness,friendliness and cooperativeness.
Last but not least,keep on taking care of each other is important.I will do that if you need me!
Sincerely yours,

Chatchai Chumnum