วันจันทร์ที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑

ประวัตินายชำนิ จันทสุข

....ผมเกิดเมื่อวันเสาร์ แรม 14 ค่ำ เดือนสี่ ปีชวด (นับแบบเก่า ตรงวันที่ 26 เดือนมีนาคม 2492) นี้เป็นคำบอกเล่าของแม่ แต่ทะเบียนบ้านผมปรากฏว่า ผมเกิดปี 2491 ทะเบียนโรงเรียนลงไว้ว่า เกิด 6 กันยายน 2491 ถ้าผมจะดูหมอดูผมยึดคำบอกเล่าของแม่
ผมเกิดที่บ้านเสลา ตำบลใจดี อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ครอบครัวผมอพยพมาอยู่เขต
ตำบลสะเดา (ขณะนั้น) อำเภอสังขะ จ.สุรินทร์ ตั้งแต่ประมาณ ปี 2492 เมื่อผมลืมตาเห็นโลก ผมก็อยู่ที่พื้นที่จังหวัดสุรินทร์ แต่พื้นที่นี้แปลกอยู่อย่างเรื่องศาสนาประเพณีวัฒนธรรม การค้าเศรษฐกิจ เขาไปทาง อำเภอขุขันธ์ ส่วนการศึกษาการปกครองเขามาทางอำเภอสังขะ
ผมใส่ใจเรื่องศาสนา เรื่องความเมตตากรุณาตั้งแต่เด็ก ๆ ที่บ้านผมเวลาฆ่าไก่ต้มกินจะกินต้มไก่กันไม่ค่อยลง เพราะจิตซึมซาบความรัก ความเมตตาไก่ กินไม่อร่อย เวลาจะขายวัวขายควายในบ้าน เป็นเรื่องใหญ่มาก แม่ต้องทำน้ำมนต์ (ใส่แป้ง ใส่ขมิ้น) ปะพรมให้วัวควายขอโทษ ขอขมาที่ต้องขายเขาไป เราเลี้ยงมันก็ผูกพันเหมือนลูกหลาน จะขายก็อาลัย รัก...
ผมเป็นครูเมื่อปี 2512 ครูบ้านนอกได้รับการซึมซับอุดมการณ์ครูบ้านนอกมาเต็มร้อย เราเป็นคนบ้านนอกอยู่แล้ว ไม่กลัวความยากลำบากไม่มีที่ไหนจะทุรกันดารอีกแล้ว จึงอาสาไปเป็นครูชายแดน ในที่สุดได้เป็นครูใหญ่ ครูน้อย ภารโรงที่โรงเรียนบ้านหนองโจงโลง แต่หัวใจไม่แกร่งพอ แค่ปีเดียวใจครูบ้านนอกก็พ่ายแพ้ ต้องไปฝึกวิทยายุทธใหม่
9 มกราคม 2529 ผมเป็นผู้ช่วยหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอสำโรงทายแล้ว วันนี้ผมตัดสินใจเดินเข้าวัด ตั้งใจศึกษาและปฏิบัติธรรมกับวัดป่าหนองไผ่ล้อม ทั้งนี้มีแรงบันดาลใจจาก พลตรีจำลอง ศรีเมือง ที่ปฏิบัติธรรมเคร่งครัด และอาสารับใช้บ้านเมืองสมัครับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่นี่นอกจากทำวัตรเย็น นั่งสมาธิ แผ่เมตตาแล้ว ผมเริ่มพึงศีล 5 ให้ตึงขึ้น คือเขาใจใส่ศีล 5 อย่างจริงจัง ผมเลิกหาปลา (ดักมอง ใส่เบ็ด) เลิกกินเหลา เลิกซื้อหวย ใส่เสื้อผ้าสีหม่น ฯลฯ มันเป็นไปเองอัตโนมัติ
ปีรุ่งขึ้นผมมีโอกาสไปสนทนาธรรมกับพระมนาโป (ปัจจุบันท่านมรณภาพแล้ว) ที่ศีรษะอโศก ผมเริ่มชัดเจนขึ้นแล้วเปลี่ยนสายปฏิบัติ มาปฏิบัติสายอโศก (ทั่วไป เรียกว่า สายสันติอโศก) จนปัจจุบัน
การปฏิบัติของพระพุทธเจ้า แท้ที่จริงก็มุ่งอยู่ที่การกินน้อยใช้น้อย คือมักน้อย และช่วยเหลือสังคม
ผมไม่แน่ใจว่า ผมเริ่มเศรษฐกิจพอเพียงตั้งแต่เมื่อใด เท่าที่ทบทวนดู ก็พบว่า แท้จริงพวกเราชาวพุทธ (บ้านนอก) ก็อยู่อย่างพอเพียงมาเนิ่นนานแล้ว แต่เมื่อกระแสทุนนิยมเข้ามา ก็ชักจูงให้เราเป็นนักบริโภคนิยม คือ กินมาก ใช้มาก ฟุ่มเฟือยมาก เห็นแก่ตัวมาก ไม่เอื้ออาทรกัน สังคมก็เดือนร้อนมาก
ชีวิตผมและครอบครัว ก็มีความสุขแบบพอเพียง

4 พฤศจิกายน 2551
-------------------
ขอเชิญส่งประวัติและผลงานของท่านหรือคุณครูที่ท่านรักและชื่นชอบมาที่ mail issarapon_229@hotamail.com เพื่อจะได้ลงในเว็บไซต์และวารสาร "เสร็นสาร" เพื่อประกาศและยกย่อง"ครูดีในดวงใจ"

ไม่มีความคิดเห็น: